Wagyu Beef ขึ้นชื่อว่า เป็นที่ยอมรับว่า เป็นเนื้อคุณภาพสูง รสชาติอร่อย แต่รู้หรือไม่ว่าเนื้อ
Wagyu ยัง มีการจัดระดับ หลายเกรด ซึ่ง เป็นตัวกำหนด คุณภาพและรสสัมผัสที่แตกต่างกัน
บทความนี้พาไป ไขความลับ เกรดเนื้อ Wagyu พร้อม แชร์ทริค การเลือกให้เหมาะกับการปรุงอาหาร
ไขปริศนา ระบบการจัดเกรด Wagyu
ประเทศญี่ปุ่นใช้มาตรฐาน JMGA จัดระดับ เกรดเนื้อ Wagyu ออกเป็นตัวอักษรและตัวเลข เช่น A5, A4, B5 โดย
ตัวอักษร (Yield Grade):
บอกปริมาณ ถึงปริมาณเนื้อที่ได้ โดย A คือเกรด พรีเมียม
ตัวเลข (Quality Grade):
เป็นตัวชี้วัด คุณภาพเนื้อ โดย 5 คือเกรด ดีที่สุด
4 ปัจจัยหลักในการ ตรวจสอบ คุณภาพ Wagyu Beef
1. ลายไขมัน (Marbling):
ลายไขมัน แทรก สม่ำเสมอ ยิ่งหนาแน่น เนื้อยิ่งนุ่ม รสชาติกลมกล่อม
2. สีของเนื้อ (Color & Brightness):
ต้องมีสี แดงสดหรือแดงเข้ม แสดงถึง ถึงความสดใหม่
3. ความแน่นของเนื้อ (Firmness & Texture):
ควร มีความแน่นและละเอียด เกิดความ สมดุลกัน
4. สีและความมันวาวของไขมัน (Color, Luster & Quality of Fat):
ไขมัน เหมาะที่จะ มีสีขาวหรือเหลืองอ่อน รวมถึง เป็นมันวาว
เจาะลึก คุณลักษณะของแต่ละเกรด Wagyu
A5:เกรด สูงสุด ลายไขมันกระจายทั่วทั้งชิ้น เนื้อนุ่มละลายในปาก รสชาติหวานละมุน
A4: คุณภาพ เลิศ ลายไขมันสวยงาม เนื้อนุ่ม แต่ไม่ละลายเท่า
A5 รสชาติ เข้มข้น กว่า
A3:คุณภาพ น่าประทับใจ ลายไขมันปานกลาง เนื้อนุ่มปานกลาง เหมาะสำหรับคนชอบรสชาติ เข้มข้น
Half Blood (F1): เนื้อวัว ลูกผสม ลักษณะคล้าย A3 แต่เนื้อ หยาบ กว่า ไขมันน้อยกว่า
จับคู่ เกรดเนื้อ Wagyu ให้เหมาะกับเมนู
A5:
เลิศรสกับ การย่างหรือต้มแบบเน้นความนุ่ม เช่น สเต็ก ชาบู
A4:
เหมาะกับ การย่างแบบต้องการรสชาติเข้มข้น เช่น ปิ้งย่าง BBQ แบบญี่ปุ่น
A3:
เหมาะกับ การทำอาหารที่ต้องการความแน่นของเนื้อ เช่น ผัด ซุป
F1:
เหมาะสำหรับ คนไม่ชอบเนื้อรสชาติเข้มข้นหรือไขมันเยอะ
เนื้อ Wagyu แต่ละเกรดผ่านการ เลี้ยงดู และ ควบคุม คุณภาพอย่างดี จึงมีราคา แพง แต่ รับรอง ว่าคุ้มค่ากับรสชาติและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เลือกซื้อเนื้อวากิว ได้ที่
https://shop.villamarket.com/catalog/Beef/Best%20Value%20Import/All