ในยุคที่โลกกำลังเจอกับปัญญาภาวะโลกร้อน ความเคลื่อนไหวของสภาพอากาศ และก็การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง ทำให้แนวคิดเรื่องพลังงานทดแทนเปลี่ยนเป็นหัวข้อหลักที่ได้รับความพึงพอใจจากทั่วทั้งโลก พลังงานทดแทนซึ่งก็คือพลังงานที่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ ไม่หมดไปจากโลก รวมทั้งมีผลต่อต่อสภาพแวดล้อมน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล หนึ่งในแหล่งพลังงานทดแทนที่กำลังได้รับความพอใจมากเพิ่มขึ้นเป็นพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
สอบถามและอ่านรายละเอียดได้ที่ >>
พลังงานทดแทน https://geo-agni.com/th/พลังงานหมุนเวียนเป็นพลังงานที่สามารถใช้ได้ตลอดไม่มีทางหมด ประกอบไปด้วยหลายหมวด ยกตัวอย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวมวล แล้วก็พลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดเด่นเฉพาะบุคคล รวมทั้งสามารถประยุกต์ใช้แทนพลังงานฟอสซิลได้อย่างมีคุณภาพ โดยยิ่งไปกว่านั้นพลังงานความร้อนใต้พิภพ หรือที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า Geothermal Energy นับว่าเป็นพลังงานที่เกิดจากความร้อนข้างในโลกซึ่งถูกเก็บกักไว้ใต้ผิวโลก เมื่อเจาะลงไปยังชั้นลึกของเปลือกโลกจะเจอแหล่งความร้อนซึ่งสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและก็ไม่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม
จุดแข็งของพลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นการเป็นพลังงานทดแทนที่ให้พลังงานตลอด 24 ชั่วโมง แตกต่างจากพลังงานจากแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมที่ต้องพึ่งพิงลักษณะอากาศและเวลาของวัน การนำความร้อนใต้พื้นดินขึ้นมาใช้สามารถทำได้ในทุกฤดูและก็ทุกขณะ ทั้งยังยังมีอัตราการปล่อยก๊าซปรากฏการณ์เรือนกระจกที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือโรงไฟฟ้าปิโตรเลียม ก็เลยเป็นพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพสำหรับในการช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อย่างแท้จริง ทั้งยังคงใช้พื้นที่น้อยสำหรับการจัดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าและก็แก่การใช้แรงงานเป็นเวลานานกว่า 30 ปี
ในประเทศไทย พลังงานความร้อนใต้พิภพยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่มีศักยภาพสูงเนื่องมาจากมีพื้นที่บางส่วนของประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตที่มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ดังเช่น บริเวณภาคเหนือซึ่งมีโอกาสพบแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพซึ่งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วก็พลังงานความร้อนสำหรับใช้ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม หรือแม้แต่ในครอบครัว การพัฒนาแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศก็เลยถือเป็นวิถีทางหนึ่งที่จะช่วยให้เมืองไทยลดการพึ่งพาอาศัยการนำเข้าพลังงานจากต่างแดน แล้วก็สามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นในด้านพลังงาน
บริษัทที่ให้บริการด้านพลังงานทดแทนในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับพลังงานความร้อนใต้พิภพเยอะขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่นำสมัยสามารถตรวจทานและพินิจพิจารณาแหล่งพลังงานใต้ผืนโลกได้อย่างเที่ยงตรง ลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการลงทุนและเพิ่มโอกาสสำหรับเพื่อการประสบความสำเร็จในการผลิตพลังงานในระยะยาว กรรมวิธีสำรวจและก็พัฒนาแหล่งพลังงานนี้เริ่มตั้งแต่การวัดสมรรถนะของพื้นที่ การเจาะตรวจ การตำหนิดตั้งระบบดูดความร้อน และก็การสร้างไฟฟ้าเพื่อจ่ายเข้าสู่ระบบไฟฟ้าภายในประเทศหรือพื้นที่ใช้สอยเฉพาะ การพัฒนาระบบนี้จำเป็นจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและก็การลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ระยะยาว
นอกจากการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว พลังงานความร้อนใต้พิภพยังสามารถเอาไปใช้ในลักษณะของพลังงานความร้อนโดยตรง ดังเช่นว่า ใช้ในการทำความร้อนตึก การอบแห้งพืชผลทางการเกษตร การเลี้ยงสัตว์น้ำในสภาพแวดล้อมควบคุม รวมไปถึงการใช้งานในระบบการทำความร้อนในสปาหรือสถานที่เที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพลังงานหมุนเวียนจำพวกนี้มีการใช้งานที่นานัปการและก็ตอบปัญหาทั้งยังด้านเศรษฐกิจแล้วก็สภาพแวดล้อมในเวลาเดียวกัน
ในอนาคตเมื่อโลกก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างจริงจัง การเลือกใช้พลังงานทดแทนที่ยืนนานก็เลยกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าช่องทาง พลังงานความร้อนใต้พิภพจะเป็นหนึ่งในคำตอบของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ไม่เฉพาะแต่ตอบโจทย์ด้านพลังงาน แต่ยังช่วยลดผลพวงด้านสิ่งแวดล้อมแล้วก็สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้แก่ชุมชนรวมทั้งประเทศในระยะยาว การสนับสนุนให้มีการลงทุนในพลังงานจำพวกนี้จำเป็นจะต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากอีกทั้งภาครัฐ เอกชน และก็สถานศึกษา เพื่อร่วมกันพัฒนาของใหม่รวมทั้งยกฐานะการใช้พลังงานทดแทนให้มีหน้าที่สำคัญในอนาคต
ท้ายที่สุดแล้ว การช่วยสนับสนุนรวมทั้งช่วยเหลือการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานความร้อนใต้พิภพ ถือเป็นก้าวสำคัญของการผลิตสังคมที่ใช้พลังงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม พลังงานทดแทนไม่ได้เป็นเพียงโอกาสเท่านั้น แม้กระนั้นเป็นเส้นทางที่ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงและยั่งยืนทางพลังงาน และก็รักษาทรัพยากรของโลกให้ดำรงอยู่ได้สำหรับคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง
Source: บทความ
พลังงานหมุนเวียน https://geo-agni.com/th/
