1 วัน ของพนักงานที่ทำงานอย่างเราๆตับปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง ?

  • 0 Replies
  • 1112 Views
*

Ailie662

  • *****
  • 2291
    • View Profile
ชีวิตพนักงานสถานที่ทำงาน มีผลต่อตับ เป็นคำถามที่ดูเหมือนจะตอบยากเพราะว่าถ้าหาก ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกโดยทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่บาดเจ็บเวลาใดก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แต่สำหรับตับแล้วถ้าได้รับการปองร้ายตับก็จะสามารถซ่อมตัวเองแต่ก็บางครั้งอาจจะไม่โชคดีเสมอพร้อมหากตับได้รับการทำลายอย่างมากรวมทั้งสม่ำเสมอก็ส่งผลให้โรคตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตพนักงานที่ทำงาน 24 ชั่วโมงอย่างพวกเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

อาหารมื้อเช้า ส่งผลต่อตับ 

มื้อรุ่งเช้าที่เร่งรีบของหนุ่มสาวสถานที่ทำงานส่วนใหญ่กับการดื่มกาแฟเพียงแต่ 1 แก้วหรือจนถึงมิได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่ต้อง ซึ่งหากนับเวลาย้อนไปมื้อปัจจุบันที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง แสดงว่าตับคนที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานรวมทั้งสารอาหารไปยังส่วนต่างๆในร่างกายนั้นควรต้องดึงไกลโคเจนที่เก็บสะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงานในช่วงเช้าแล้วก็ร่างกายยังจำเป็นต้องตอบแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สำหรับในการเปลี่ยนเป็นพลังอย่างรวดเร็วก็เลยจะต้องรับประทานในมื้อถัดไปมากขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งแปลงเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับในการทำงานมากขึ้น

มลภาวะ พิษ ส่งผลต่อตับ

ช่วงเช้ายังจำเป็นต้องเผชิญมลพิษบนท้องถนนในแต่ละวันด้วยชีวิตที่เร่งรีบของชาวเมืองในขณะนี้ที่จำต้องพบกับมลภาวะต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ สารพิษพวกนี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผลการวิจัยจากหน่วยงานอนามัยโลกกล่าวว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของคนเรานั้น ล้วนแต่มีต้นสายปลายเหตุฐานรากเกี่ยวโยงจากการสัมผัสกับมลพิษที่สะสมเป็นเวลานานทั้งมวลมีผลต่อภายในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางและกรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

เพียงพอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบเนื่องจากว่าจำนวนมากบุคลากรที่ทำงานจำเป็นต้องรีบหามื้อกลางวันในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะกับตอนนั้นโดยมากก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ทันทีแต่บางทีอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ เพราะโดยมากอาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูงเกินความปรารถนาของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้ามีไขมันพอกมากๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากมายเข้า มีผลเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคไขมันพอกตับ ทำให้เกิดสภาวะตับอักเสบ ตับแข็งรวมทั้ง มะเร็งตับ ท้ายที่สุด

ความเครียด มีผลต่อตับ

ตกบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความเคร่งเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกนำมาซึ่งการทำให้ กระบวนการทำร้ายตับจากความเคร่งเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนและก็ฮอร์โมนในกลุ่มความตึงเครียด อาทิเช่น คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายกระทั่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับและทำให้ความสามารถสำหรับเพื่อการทำงานของภูมิคุ้มกันลดลดลงทำให้เกิดความทรุดโทรมต่อตับได้ ให้โอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาปองร้ายได้มากขึ้น นี่เป็นปัจจัยว่าทำไมพวกเราถึงล้มป่วยจากความเครียดได้

แอลกอฮอล์ บุหรี่ มีผลต่อตับ

และก่อนกลับไปอยู่ที่บ้านก็มีการพบปะ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เสวนากับเพื่อนสถานที่ทำงานทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เนื่องจากเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็การสูบยาสูบ อีกทั้งพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการดมควันจากบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปะปนรวมถึง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนนำมาซึ่งการทำให้เซลล์ตับเกิดการความย่ำแย่ รวมทั้งแอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ มากถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวะอ้วนลงพุง!!!

นอนน้อย มีผลต่อตับ

รวมทั้งท้ายที่สุดกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย ส่วนใหญ่แล้ววัยรุ่นออฟฟิตทั้งหลายก็ยังไม่ได้นอนนำมาซึ่งการทำให้กระบวนการทำงานกำจัดพิษในตับปฏิบัติงานได้ไม่เต็มกำลังส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งตับอักเสบได้ไม่ยาก ซึ่งตามแนวคิดแล้วช่วง ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง เป็นเวลาที่จะเกิดวิธีการกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรจะต้องอยู่ในตอนการนอนหลับสนิท

จากการกระทำเพียงแต่ หนึ่งวันพวกเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกช่วงเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระที่เราหลบหลีกมิได้หรือเพียรพยายามควบคุมรวมทั้งทำเป็นยาก ดังนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องที่จะต้องหันมาดูแลสุขภาพตับพวกเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล