🎯การสำรวจชั้นดิน 👉และ🥇 การสำรวจดินในงานก่อสร้าง✨

  • 3 Replies
  • 636 Views
*

dsmol19

  • *****
  • 5686
    • View Profile
การสำรวจดิน 📢คือกรรมวิธีการเจาะลงไปในชั้นดิน, เก็บตัวอย่างดิน, ทดสอบคุณสมบัติดินในสนาม, หยั่งชั้นดินจากผิวดิน 🎯หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางแนวดิ่งของชั้นดิน และการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ ✅หรือการศึกษาเชิงปฐพีกลศาสตร์ ลักษณะการเจาะสำรวจดินจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้งานด้วย เช่น งานถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะกระทำเพียงตื้น ๆ แต่งานฐานรากเสาเข็มต้องเจาะลึกกว่าปลายเข็มที่ใช้ 🥇สำหรับในบทนี้จะพูดถึงการเจาะสำรวจดินโดยวิธีเบื้องต้น โดยใช้ สว่านมือ, การเจาะล้าง 🌏และการเก็บตัวอย่างดินโดยใช้กระบอกเปลือกบาง (Thin Walled Tube)🎯

🌏🌏🌏เหตุผลในการเจาะสำรวจดินก่อนก่อสร้าง👉👉👉

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง 🎯และรู้ลักษณะเชิงกลของดิน ช่วยให้เราเลือกฐานรากได้อย่างถูกต้อง 🛒เช่น หากดินแข็งพออาจจะเลือกใช้เป็นฐานแผ่แทน✅

2. เพื่อให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง) ว่าลึกเท่าไร ✅เพื่อนำไปคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🎯 และเลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม✨

3. เพื่อลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม 🌏เพราะหากพบชั้นดินแข็งแต่ไม่หนาและลึกไม่มาก 🦖อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว 📢ทั้งที่จริง ๆ ยังสามารถตอกต่อไปได้ 🎯หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก วิศวกรควรสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมให้เพียงพอ เพื่อเปรียบเทียบ 📌เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบ สำหรับการก่อสร้างอาคารในพื้นที่นั้น🛒



🎯🎯🎯วิธีเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring)🎯🎯🎯

การเจาะสำรวจชั้นดิน🥇คือการเจาะหลุมลงไปในดินเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน🦖และเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ⚡โดยทั่วไปการสำรวจชั้นดินที่ใช้มากในประเทศไทย 🌏ได้แก่

1. การใช้สว่านมือ (Hand Auger) 👉เป็นการเจาะด้วยแรงคน โดยใช้สว่านมือและก้านเจาะดังรูปด้านล่าง ✨โดยที่ก้านเจาะยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อเพิ่มความยาวได้หลายท่อน เมื่อกดและหมุนก้านจนดินเต็มสว่านแล้วดึงขึ้นเพื่อนำดินออก 📢ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติบางประเภททางวิศวกรรม 🦖การเจาะด้วยสว่านมือสามารถทำได้ลึกถึง 6-10 เมตรในดินเหนียวแข็งปานกลาง 🛒ข้อเสียของวิธีการเจาะนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อทดสอบความแข็งแรงหรือการทรุดตัวได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน⚡

2. การเจาะโดยใช้การฉีดล้าง (Wash Boring) 👉คือการใช้แรงดันน้ำฉีดเจาะทำลายโครงสร้างดินเพื่อให้เกิดหลุม และเกิดการรบกวนดินด้านล่างน้อยที่สุด 📌วิธีการเจาะเริ่มโดยการเจาะชั้นดินโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะลงไปที่หัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อม ๆ กับกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ ⚡ทำให้ดินก้นหลุมหลุดไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอนแล้วสูบน้ำที่ใสนำไปใช้ได้อีก ✨ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยสามขา (Tripod) เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) 🌏และเครื่องสูบน้ำ ในกรณีที่เจาะในชั้นของดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ 🛒และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุมจึงจำเป็นต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) ลงไปกับน้ำ 🌏เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด Montmollionite มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก ✅ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย🥇 น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะประเภทนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้เป็นระยะ ๆ ตามกำหนด 🥇การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ เพื่อก่อสร้างอาคารจะเจาะสำรวจตั้งแต่ 30-80 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร📢
Tags : ทดสอบดิน


*

dsmol19

  • *****
  • 5686
    • View Profile