ลักษณะชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอาจมีการแปรปรวน 📢ทำให้ลักษณะพื้นที่ไม่เหมือนกับพื้นที่ทั่วไป 🦖เช่น ชั้นทรายหลวมผิดปกติ ชั้นดินเหนียวอ่อน หรือความลึกของชั้นดินแข็งแรงมีความผันแปรสูง 🎯เป็นต้น จากสภาพของชั้นดินดังกล่าว อาจทำให้ฐานรากพังได้ 🌏ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายที่คาดไม่ถึง ก่อนที่วิศวกรจะทำการออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น ✅จึงต้องจัดให้มีการ
เจาะสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและละเอียดรอบคอบ 📢เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด ✅เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับดินในส่วนใดแล้ว จะต้องมีการวางแผนการสำรวจดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและเงินทุน พร้อมกับได้ข้อมูลที่แม่นยำ 🥇เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและแตกต่างกันตามสถานที่ 🦖จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับดินทุกประเภท🛒
โครงสร้างหลาย ๆ อย่าง 🥇จะมีความแข็งแรง ต้องมีฐานรากที่มั่นคงรองรับ 🥇ในการออกแบบฐานราก การสำรวจชั้นดินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก 📢ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม ✅สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานสำรวจขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการ 👉และสภาพของชั้นดิน 🛒โดยวิศวกรออกแบบควรเป็นผู้กำหนดรายละเอียดของการสำรวจชั้นดินเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์และออกแบบอย่างเพียงพอ ✅บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์ความยาวเสาเข็ม โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ📌
การสำรวจดินเบื้องต้น ⚡เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย 🛒เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน การเรียงตัวของชั้นดิน ✨ระดับน้ำใต้ดินและอื่น ๆ อันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและเตรียมเครื่องมือได้อย่างเหมาะสม 🦖ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนการเจาะชั้นดินอย่างละเอียด ⚡โดยทั่วไปจะระบุ จุดเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะ ความลึกของหลุมสำรวจ🦖 และการทดสอบที่ต้องดำเนินการ ✅โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ความแข็งแรงของดินและการคำนวณการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🎯
📢🌏⚡การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ🌏⚡✨🎯1. ตัวอย่างดินเปลี่ยนสภาพ (Disturbed Sample) ⚡เป็นตัวอย่างดินที่ถูกรบกวน 🎯จนทำให้โครงสร้าง หรือการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนไป 🦖หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากการเก็บตัวอย่างดินที่ไม่เหมาะสม📌 การขนส่ง และการเก็บรักษา ✨ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยสว่านมือ ⚡และตัวอย่างดินที่ได้จากการตอกวัดค่าด้วยกระบอกผ่า ตัวอย่างดินเหล่านี้ไม่สามารถใช้ทดสอบกำลังรับน้ำหนักได้ 🌏เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทกและการอัด 🛒ซึ่งโครงสร้างของดินได้เปลี่ยนไป แต่สามารถนำไปหาคุณสมบัติเพื่อจำแนกประเภทของดินได้🥇
🥇2. ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) ✨เป็นดินที่เก็บจากสนาม ✅โดยพยายามให้ทั้งโครงสร้างและองค์ประกอบของดินทุกอย่างเหมือนกับสภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสนาม 🥇ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป ⚡ถือว่าเป็นตัวอย่างดินคุณภาพสูง 🌏สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการเกือบทุกอย่าง 🦖รวมถึงการทดสอบความแข็งแรงและการรับน้ำหนักของดิน👉