ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก:
[ol]
- การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน (PBOC)
[ul]
- จีนเพิ่มปริมาณทองคำแท่งที่ถือครองเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม
- ปริมาณการถือครองทองคำของ PBOC เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 73.29 ล้านทรอยออนซ์ ซึ่งเป็นสัญญาณของความต้องการทองคำที่กลับมาอีกครั้ง
[/ul]
- แรงขายทำกำไรระยะสั้น
[ul]
- แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง แต่แรงขายทำกำไรระยะสั้นส่งผลให้การปรับตัวขึ้นอยู่ในกรอบจำกัด
[/ul]
[/ol]
ทั้งนี้ กองทุน
SPDR ยังคงถือครองทองคำในปริมาณเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผย:
[ol]
- การจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศ (เดือนธันวาคม) โดย ADP
[ul]
- ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง จาก 146,000 ตำแหน่ง ในเดือนพฤศจิกายน
[/ul]
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
[ul]
- คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 241,000 ราย
[/ul]
[/ol]
วิเคราะห์
แนวโน้มราคาทอง[ul]
- ราคาทองคำยังคงยืนเหนือเส้น SMA100
- สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ชี้ให้เห็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish MACD และ MACD > 0)
- อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นอาจอยู่ใน กรอบจำกัด เนื่องจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น
[/ul]
แนวรับ-แนวต้านราคาทองคำตลาดโลก
[ul]
- แนวรับสำคัญ: 2,630 ดอลลาร์ และ 2,620 ดอลลาร์
- แนวต้านสำคัญ: 2,660 ดอลลาร์ และ 2,670 ดอลลาร์
[/ul]
แนวรับ-แนวต้านราคาทองคำแท่ง 96.5%
[ul]
- แนวรับ: 43,100 บาท และ 43,000 บาท
- แนวต้าน: 43,400 บาท และ 43,500 บาท
[/ul]
กลยุทธ์การลงทุน
[ol]
- สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น:
[ul]
- เข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงใกล้แนวรับ 2,630 ดอลลาร์
- ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,620 ดอลลาร์
- ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่แนวต้าน 2,660-2,670 ดอลลาร์
[/ul]
- สำหรับการลงทุนระยะยาว:
[ul]
- แนะนำให้ Let Profit Run หรือถือสถานะต่อหากราคาไม่หลุดแนวรับสำคัญ
- สำหรับทองคำแท่ง ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามสัญญาณ Bullish MACD
[/ul]
[/ol]
นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด.