บริษัทสถาปนิกออกแบบบ้าน บริการรับออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนสมัยใหม่ เทรนด์งานบ้านงานเรือนและก็สวน ปี 2568
ในสมัยที่ไลฟ์สไตล์ของคนสมัยใหม่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การออกแบบบ้านไม่ได้ย้ำเพียงแค่ความงามแค่นั้น แต่ว่ายังจำเป็นต้องตอบปัญหาการใช้แรงงานจริง ความทนทาน รวมทั้งเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างพอดี ฉะนั้นบริการรับสร้างบ้านสมัยใหม่จึงต้องผสานความคิดสร้างสรรค์ ของใหม่ และก็ความรู้ความเข้าใจในชีวิตคนรุ่นหลังอย่างแท้จริง
คุณลักษณะเด่นของบริการวางแบบบ้านสมัย 2568
• การออกแบบที่ยืดหยุ่น (Flexible Design)
บ้านสามารถเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันได้ตามความอยากได้ ดังเช่นว่า ห้องทำงานที่กลายเป็นห้องฟิตเนส หรือห้องนอนเสริมในอนาคต
• เน้นธรรมชาติและก็ความยั่งยืนมั่นคง (Sustainability & Green Living)
การใช้วัสดุรักษ์โลก ระบบรีไซเคิลน้ำ การปลูกต้นไม้ในตัวบ้าน แล้วก็การออกแบบที่รับแสงธรรมชาติช่วยใช้พลังงานน้อยลง
• เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ (Smart Home Integration)
ระบบควบคุมไฟฟ้า แสงไฟ ความปลอดภัย รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ผ่านสมาร์ทโฟนหรือเสียงพูด เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
• วางแบบ Minimal Luxury
เรียบง่ายแม้กระนั้นหรูหรา พื้นที่เปิดโล่ง ใช้โทนสีธรรมชาติ และก็สิ่งของคุณภาพสูงที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกอบอุ่นและก็ล้ำสมัยในขณะเดียวกัน
เทรนด์งานบ้านงานเรือนและสวนปี 2568 ที่คุณไม่สมควรพลาด
• สวนแนวตั้ง (Vertical Garden) แล้วก็สวนในบ้าน (Indoor Garden)
พื้นที่สีเขียวถึงแม้มีพื้นที่จำกัด ตอบโจทย์คนกรุงที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ
• Outdoor Living Space
พื้นที่กลางแจ้ง ตัวอย่างเช่น ระเบียงดาดฟ้า หรือสวนขนาดย่อม สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้งและก็พัก
• อุปกรณ์ธรรมชาติแล้วก็รีไซเคิล
การใช้ไม้ หิน ดินเผา และก็สิ่งของรีไซเคิล เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม
• บ้านพลังงานสะอาด (Clean Energy Home)
ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ระบบเก็บน้ำฝน หรือระบบบ้านใชัพลังงานน้อยลงเป็นเรื่องปกติในบ้านยุคสมัยใหม่
บริการวางแบบบ้านรับมือกับแผ่นดินไหว บ้านไม่เป็นอันตราย แข็งแรงต่อแรงสั่นสะเทือน
ในสมัยที่ภัยที่เกิดจากธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้หลายครั้งและไม่สามารถคาดการณ์ได้ การออกแบบบ้านที่มีองค์ประกอบแข็งแรง รองรับแรงสะเทือนก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่เพื่อให้มีความปลอดภัยของทรัพย์สิน แต่เพื่อชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวด้วย
ลักษณะเด่นของบริการวางแบบบ้านต้านทานแผ่นดินไหว
• องค์ประกอบเสริมแรง (Reinforced Structure)
ใช้เหล็กเสริมกำลังสูง (High-strength Steel) แล้วก็คอนกรีตจำพวกพิเศษ ช่วยให้ส่วนประกอบยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่ายเมื่อต้องรับแรงสั่น
• การออกแบบระบบรากฐานพิเศษ (Seismic Base Isolation)
พื้นฐานบ้านแยกตัวจากพื้นดินโดยใช้ระบบ "ฐานรากแยกแรงสั่น" (Base Isolator) ลดแรงสั่นสะเทือนที่ส่งถึงตัวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ผู้กระทำระจายน้ำหนักอย่างสมดุล (Weight Distribution Design)
วางแบบให้น้ำหนักกระจัดกระจายอย่างสม่ำเสมอ เลี่ยงจุดศูนย์กลางที่ไม่สมดุล ซึ่งอาจจะทำให้ตัวบ้านทรุดหรือกระหน่ำได้
• วัตถุอุปกรณ์สำหรับใช้ในการก่อสร้างที่ยืดหยุ่นสูง (Flexible Materials)
ใช้สิ่งของซึ่งสามารถขยายตัวหรือหดตัวได้เมื่อมีการขยับเขยื้อน เช่น ไม้บางชนิด เหล็กกล้า
ออกแบบตกแต่งภายใน หรือคอนกรีตผสมพิเศษ
• ออกแบบบ้านแบบ Low Center of Gravity
ออกแบบบ้านให้มีศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยลดโอกาสบ้านคว่ำหรือล้มเมื่อเกิดแรงสั่นแรงๆ
เทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ในบ้านต้านแผ่นดินไหวปี 2568
• Damper System
จัดตั้งตัวซับแรงสั่น (Damper) บริเวณโครงสร้างเพื่อลดแรงสะเทือนที่ส่งเข้าตัวอาคาร
• Smart Monitoring System
ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจแรงสั่น เพื่อเตือนภัยล่วงหน้ารวมทั้งช่วยทำให้สามารถประเมินภาวะบ้านข้างหลังแผ่นดินไหวได้ทันที
• วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างน้ำหนักค่อยแม้กระนั้นแข็งแรง (Lightweight Seismic Materials)
อาทิเช่น เส้นใยปูนซีเมนต์ คอมโพสิตไฟเบอร์ที่ทั้งค่อยและก็ทนแรงบิดแรงดึงได้ดิบได้ดี
เพราะเหตุใดการออกแบบต้านทานแผ่นดินไหวจึงสำคัญ
• ช่วยลดความย่ำแย่จากแรงสั่น
• ลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บแล้วก็สูญเสียชีวิต
• เพิ่มราคาเงินในระยะยาว
• ตอบปัญหาเมืองใหญ่ที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว ตัวอย่างเช่น เชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จ.กรุงเทพฯ กาญจนบุรี
แนวทางออกแบบบ้านให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว
การออกแบบบ้านเพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว จำต้องพิจารณาถึงส่วนประกอบที่ "ยืดหยุ่น แข็งแรง รวมทั้งกระจายแรงได้ดิบได้ดี
บริษัทสถาปนิกออกแบบบ้าน " เพื่อบ้านสามารถทนทานต่อแรงสั่นได้โดยไม่ถล่มหรือล้มเหลวอย่างหนัก วิธีการสำคัญมีดังนี้
1. ฐานรากแข็งแรง (Strong Foundation)
• ฐานรากจำเป็นต้องถูกวางแบบเพื่อกระจายน้ำหนักอาคารอย่างสม่ำเสมอ
• ในบางพื้นที่ควรใช้ ฐานรากแยกแรงสั่น (Seismic Base Isolation) ช่วยลดแรงที่ส่งขึ้นมาถึงตัวบ้าน
2. โครงสร้างตึกแบบเสริมแรง (Reinforced Structure)
• ใช้เสา คาน และก็ส่วนประกอบเสริมด้วยเหล็ก
• โครงสร้างจะต้องเชื่อมต่อกันแน่นหนา (Joint Reinforcement) เพื่อลดความย่ำแย่จากแรงดึงและก็แรงเชือด
3. น้ำหนักเบาและก็สมดุล (Lightweight & Balanced Design)
• เลี่ยงการวางน้ำหนักมากมายที่ชั้นบน เช่น ถังที่ไว้เพื่อใส่น้ำ หรือสิ่งของหนักๆ
• เลือกใช้อุปกรณ์ก่อสร้าง
architects ที่เบาแต่แข็งแรง เพื่อลดแรงกระทำในตอนแผ่นดินไหว
4. ทรงและแปลนบ้านต้องเรียบง่าย (Simple Geometry)
• บ้านที่มีทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีความแข็งแรงมากยิ่งกว่าแบบที่ซับซ้อน
• หลบหลีกการออกแบบที่มีส่วนยื่นยาวหรือไม่สมดุล
5. ติดตั้งระบบดูดซับแรงสั่น (Dampers and Shock Absorbers)
• ช่วยลดการเขย่าสะเทือนที่ส่งผลกับตัวบ้านโดยตรง
ข้อควรทราบก่อนก่อสร้างบ้านในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
ก่อนเริ่มสร้างบ้านในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลและคิดแผนให้ถี่ถ้วน
1. ศึกษาข้อมูลพื้นที่และมาตรฐานแผ่นดินไหว
วิเคราะห์ระดับการเสี่ยงของพื้นที่จากหน่วยงานรัฐบาล ยกตัวอย่างเช่น กรมทรัพยากรธรณี
เช็กกฎหมายควบคุมตึกในพื้นที่นั้นๆอาทิเช่น จะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หรือแบบแปลนพิเศษ
2. เลือกวิศวกรแล้วก็สถาปนิกที่มีประสบการณ์
จำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างต้านแผ่นดินไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
มีการคำนวณโครงสร้างตามมาตรฐานแผ่นดินไหว (Seismic Design Code)
3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างจำต้องได้มาตรฐาน
เลือกสิ่งของที่ผ่านการยืนยัน ตัวอย่างเช่น คอนกรีตเสริมเหล็กประสิทธิภาพสูง ไม้เนื้อแข็งที่มีความยืดหยุ่นดี
4. วางแบบเส้นทางหนีภัยแล้วก็จุดศูนย์รวมพล
ดีไซน์บ้านให้มีทางออกเร่งด่วนอย่างน้อย 2 ทาง
เผื่อพื้นที่เตียนโล่งสำหรับรวมพลในกรณีเกิดเหตุ
5. วางระบบไฟฟ้าและประปาให้ไม่มีอันตราย
จัดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อกำเนิดแรงสะเทือน
วางท่อน้ำและท่อแก๊สแบบยืดหยุ่น (Flexible Piping) ปกป้องการแตกหัก
บริการของ Master texture มี
ตรวจสอบพื้นที่พร้อมทั้งวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของโครงการ หรือการจัดกำหนดรูปแบบของตึก / ดีไซน์ตึก / ออกแบบด้านใน / ยื่นเอกสารที่เกี่ยวโยงกับทางราชการ / ที่ปรึกษาโครงการ / ตรวจสอบงานก่อสร้าง
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
ออกแบบตกแต่งภายใน ได้จาก >>
https://www.mastertexture.com/
