พิมพ์แคตตาล็อกงานเอกสารแคตตาล็อกตามที่เป็นจริงแล้วตามความหมายที่ถูกต้อง เป็นงานพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
ต้องมีบทนำ สารบัญ รายละเอียดโดยไม่แตกต่างจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แม้กระนั้นถ้าว่าในตอนนี้สิ่งพิมพ์แคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนแปลงความหมายไปเป็นการตามรูปแบบของการใช้แรงงาน ซึ่งความหมายกลายเป็นสิ่งพิมพ์ที่แสดงเนื้อหา
ของผลิตภัณฑ์โดยจะมีรูปภาพประกอบและอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคำบรรยายหรือข้อแนะนำสินค้ากำกับไว้ ซึ่งตอนนี้แปลงเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นรูปเล่มหรือต้องมีองค์ประกอบอย่างบทนำรวมทั้งสารบาญก็ได้ โดยที่นิยมมากมายในปัจจุบัน
ก็คืองานเอกสารแคตตาล็อกแบบแผ่นพับ ฯลฯ
ลักษณะของแคตตาล็อกที่ถูกต้องเป็นงานพิมพ์สื่อโฆษณาจำพวกการแสดงระเอียดรายการที่สินค้าที่คนจัดทำ
ต้องการเสนอ โดยจะมีรูปประกอบสินค้า ชื่อผลิตภัณฑ์รวมทั้งรายละเอียดของผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งอาจจะมีการแยกเป็นชนิดและประเภทเป็นกรุ๊ป
จำพวกสินค้าเพื่อจ่ายต่อการจัดชนิดและประเภท โดยจะมีการทำสารบัญเพื่อให้ไม่ยุ่งยากต่อการค้นหา ทั้งหมดเอกสารทั้งสิ้นจะถูก
จัดทำเป็นแบบรูปเล่มคล้ายกับวารสาร โดยจุดหมายด้านการใช้งานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นเจาะจงแน่ชัดใน
ด้านเนื้อหา ต่างจากสิ่งพิมพ์โปรโมทชนิดอื่นๆที่คนจัดทำต้องการจะใส่เนื้อหาจำพวกไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แต่ว่าสำหรับ
สิ่งพิมพ์นี้แม้เมื่อคนพูดถึงงานพิมพ์แคตตาล็อก ในความคิดทุกคนควรต้องนึกภาพเอกสารที่มีรูปสินค้าแล้วก็เนื้อหาในทันที
แต่เนื่องแต่การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากมายรวมทั้งมีความดกและขนาดใหญ่
จึงไม่เหมาะสำหรับในการใช้งานชนิดการแจกจ่ายแบบทั่วๆไปตามท้องถนน ก็เลยทำให้มีการจัดทำแผ่นพับที่ระบุจำพวกระบุเนื้อหา
สินค้า แล้วก็ทำให้คนสามัญเรียกแผ่นพับพวกนี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างมากมายซึ่งนับว่าผิดต้องตามวิธีการใช้งานควรจะเรียก
เป็นแผ่นพับมากยิ่งกว่า สำหรับเพื่อการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นคนจัดทำจะต้องวางรูปแบบการดำเนินเรื่อง ส่วนประกอบเนื้อหา พวก รวมทั้งจำนวน
หน้า รวมถึงจำนวนเล่มที่ต้องผลิต เนื่องจากการรูปแบบการพิมพ์ไม่ได้ต่างอะไรจากหนังสือเพราะเหตุว่าปริมาณเล่มจำต้องเยอะแยะในระดับหนึ่งเพื่อ
คุ้มค่ากับเงินลงทุนสำหรับในการทำแม่พิมพ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขนาดของงาน
พิมพ์แคตตาล็อกโดยทั่วไปควรใช้ขนาดราว A4 , A5 ,A6 หรืออาจจะใหญ่หรือเล็กมากยิ่งกว่าสัก
นิดหน่อย เพราะเหตุว่าถ้าขนาดที่แปลกเกินความจำเป็นบางครั้งอาจจะต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มอีก การเลือกใช้กระดาษก็ชอบเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แต่ที่จำต้องตรึกตรองเรื่องความสวยเป็นพิเศษโน่นคือ ปกของแคตตาล็อก โดยมักจะใช้กระดาษที่มีความครึ้มกว่า
ข้างใน ตัวอย่างเช่น อาร์ตการ์ด ฯลฯ ทั้งนี้อาจจะมีการตกแต่งพิเศษประเภท Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนสุดท้ายการเย็บเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความครึ้มของรูปเล่มอีกรอบหนึ่ง
เพราะพิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากจึงไม่นิยมใช้เป็นสื่อโฆษณาที่ใช้แจกมากเกินไปและไม่เหมาะกับ
กลุ่มลูกค้าทั่วไป จำต้องใช้สำหรับกรุ๊ปลูกค้าที่ความสนใจจริงๆแล้วก็มีโอกาสบริโภคเพียงแค่นั้น ดังเช่น กลุ่มลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็บางครั้งอาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรืออาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาถามถึงผลิตภัณฑ์ของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านค้าท่านแล้ว ดังเช่นว่า ลูกค้ามาเดินดูรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ จำต้องแจกแคตตาล็อกที่มีข้อมูลอื่นๆให้ประกอบการ
ตกลงใจเพื่อสร้างความตรึงใจให้ลูกค้า ท้ายที่สุดการพิมพ์แคตตาล็อกจะต้องมีการวางแผนแล้วก็พิจารณาถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างดีเสียทุกคราวก่อนการจัดทำ