รากฐานลึก (Deep Foundation) เป็นสาระสำคัญของโครงสร้างที่รองรับน้ำหนักและถ่ายโอนแรงไปยังชั้นดินหรือหินที่มีความแข็งแรง การต่อว่าดตั้งฐานรากลึกเป็นแนวทางการที่จำเป็นต้องอาศัยเคล็ดลับรวมทั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อส่วนประกอบมีความมั่นคงและก็สามารถใช้งานได้ช้านาน ในเนื้อหานี้ พวกเราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีการจัดตั้งรากฐานลึกประเภทต่างๆรวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำรวมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
📌🦖👉ฐานรากลึกเป็นอย่างไร?
ฐานรากลึกเป็นส่วนองค์ประกอบที่ถ่ายโอนน้ำหนักของอาคารลงไปยังชั้นดินแข็งหรือชั้นหิน โดยอยู่ลึกกว่าโครงสร้างรองรับตื้น ฐานรากลึกมักถูกใช้ในโครงงานที่อยากได้รองรับน้ำหนักมาก หรือในพื้นที่ที่ชั้นดินข้างบนไม่แข็งแรง เป็นต้นว่า ดินเลน ดินปนทราย หรือพื้นที่น้ำท่วมขัง รากฐานลึกมีหลากหลายประเภท ดังเช่นว่า เสาเข็ม (Pile Foundation) รวมทั้ง ฐานเข็มเจาะ (Drilled Shaft) ซึ่งการตำหนิดตั้งจำต้องใช้ขั้นตอนการเฉพาะเพื่อเหมาะสมกับภาวะดินและลักษณะของส่วนประกอบ
🦖🎯🎯กระบวนการติดตั้งฐานรากลึก
การติดตั้งรากฐานลึกแบ่งได้เป็นหลายแนวทาง ขึ้นกับชนิดของโครงสร้างรองรับแล้วก็ภาวะพื้นที่ ต่อไปนี้เป็นกรรมวิธีการที่นิยมใช้ในการก่อสร้าง:
-------------------------------------------------------------
นำเสนอบริการ เจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Boring Test บริการ Boring Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรม ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook:
https://www.facebook.com/exesoiltest/👉 Website:
เจาะสํารวจดิน 👉 Map:
เส้นทาง-------------------------------------------------------------
1. การตอกเสาเข็ม (Driven Piles)
การตอกเสาเข็มเป็นแนวทางที่นิยมใช้กันอย่างล้นหลาม โดยใช้เครื่องจักรตอกเสาเข็มลงไปในดินจนถึงชั้นดินแข็ง แนวทางลักษณะนี้เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่มีตึกใกล้เคียง เพราะการตอกเสาเข็มอาจจะทำให้กำเนิดแรงสั่น
ขั้นตอนการตอกเสาเข็ม:
-วางตำแหน่งเสาเข็มตามแบบแปลน
-ใช้เครื่องจักรตอกเสาเข็มจนถึงระดับความลึกที่ระบุ
-วิเคราะห์ความตรงแล้วก็ความลึกของเสาเข็ม
จุดเด่นของการตอกเสาเข็ม:
-กระบวนการติดตั้งเร็วทันใจ
-เหมาะกับโครงสร้างที่ต้องการรองรับน้ำหนักมาก
ข้อกำหนด:
-บางทีอาจทำให้เกิดผลกระทบต่ออาคารใกล้เคียงเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือน
2. การเจาะเสาเข็ม (Bored Piles)
การเจาะเสาเข็มเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการลดผลพวงจากแรงสั่น เป็นต้นว่า ใกล้กับอาคารที่มีโครงสร้างหวั่นไหว ขั้นตอนการนี้ประกอบด้วยการเจาะหลุมลงไปในดินแล้วใส่คอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อสร้างรากฐาน
ขั้นตอนการเจาะเสาเข็ม:
-เจาะหลุมลงไปในดินโดยใช้เครื่องเจาะ
-ใส่เหล็กเสริมลงไปในหลุม
-เทคอนกรีตลงไปเพื่อสร้างฐานราก
ข้อดีของการเจาะเสาเข็ม:
-ลดผลกระทบจากแรงสะเทือน
-สามารถปรับขนาดรวมทั้งความลึกของเสาเข็มได้ตามปรารถนา
ข้อกำหนด:
-ขั้นตอนการจัดตั้งใช้เวลานานกว่าเสาเข็มตอก
3. ฐานรากแบบเสาเข็มรวม (Pile Group Foundation)
ฐานรากแบบเสาเข็มรวมมักใช้ในส่วนประกอบที่อยากรองรับน้ำหนักกระจายตัว ได้แก่ สะพานหรือโรงงานอุตสาหกรรม ขั้นตอนการนี้มีการตำหนิดตั้งเสาเข็มหลายต้นรวมกันเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
ขั้นตอน:
-จัดตั้งเสาเข็มหลายต้นในตำแหน่งที่ระบุ
-เชื่อมโยงเสาเข็มด้วยฐานรากคอนกรีตเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนัก
จุดเด่น:
-รองรับน้ำหนักได้มาก
-เหมาะกับองค์ประกอบขนาดใหญ่
4. ฐานเข็มเจาะ (Drilled Shaft)
ฐานเข็มเจาะเป็นฐานรากที่จัดตั้งโดยการเจาะหลุมขนาดใหญ่ลงไปในดินหรือหิน แล้วใส่คอนกรีตเพื่อสร้างโครงสร้างรองรับ แนวทางนี้เหมาะสำหรับโครงงานที่ปรารถนารองรับน้ำหนักมาก ได้แก่ สะพาน หรืออาคารสูง
ขั้นตอน:
-เจาะหลุมขนาดใหญ่ลงไปในชั้นดินหรือหิน
-ใส่เหล็กเสริมรวมทั้งเทคอนกรีตเพื่อสร้างรากฐาน
ข้อดี:
-รองรับน้ำหนักได้มากรวมทั้งมั่นคง
-เหมาะกับองค์ประกอบที่อยากความแข็งแรงสูง
🦖🛒📌เทคโนโลยีที่ใช้เพื่อการติดตั้งฐานรากลึก
การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยเพิ่มความแม่นยำแล้วก็ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกรรมวิธีจัดตั้งฐานรากลึก เทคโนโลยีที่นิยมใช้ ได้แก่:
1. เครื่องจักรตอกเสาเข็มแบบไร้เสียง
เหมาะกับการต่อว่าดตั้งเสาเข็มในพื้นที่ที่อยากได้ลดเสียงดังรบกวน ตัวอย่างเช่น ใกล้ชุมชนหรือโรงพยาบาล
2. เครื่องเจาะเสาเข็มแบบ Hydraulic
ช่วยเพิ่มความแม่นยำรวมทั้งลดช่วงเวลาสำหรับในการติดตั้ง โดยยิ่งไปกว่านั้นในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดทางกายภาพ
3. การใช้เซนเซอร์วัดแรงดันดิน
ช่วยตรวจตราแรงดันดินในระหว่างการต่อว่าดตั้ง เพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมวิธีการให้เหมาะสมและก็ลดการเสี่ยง
4. การเลียนแบบด้วยซอฟต์แวร์วิศวกรรม
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยจำทดลองกรรมวิธีจัดตั้งแล้วก็วิเคราะห์ความประพฤติปฏิบัติของฐานรากภายใต้แรงต่างๆตัวอย่างเช่น แรงลม หรือแรงแผ่นดินไหว
📌🎯✅ต้นเหตุที่จะต้องพิจารณาสำหรับในการจัดตั้งรากฐานลึก
การตำหนิดตั้งรากฐานลึกจะต้องพิจารณาถึงสาเหตุหลายประการเพื่อโครงสร้างมีความมั่นคงรวมทั้งไม่มีอันตราย:
สภาพดินแล้วก็ภูมิศาสตร์:
จะต้องวิเคราะห์คุณลักษณะของชั้นดิน ดังเช่นว่า ความหนาแน่น และก็ความลึกของชั้นดินแข็ง
น้ำหนักของส่วนประกอบ:
น้ำหนักของส่วนประกอบจะกำหนดขนาดแล้วก็ประเภทของฐานรากที่เหมาะสม
หลักเกณฑ์ด้านกฎหมายแล้วก็มาตรฐาน:
การติดตั้งฐานรากจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของพื้นที่และมาตรฐานวิศวกรรม
ผลพวงต่อสิ่งแวดล้อม:
จำต้องพิเคราะห์ผลกระทบจากการตำหนิดตั้ง ตัวอย่างเช่น เสียงดังรบกวน หรือการขับเคลื่อนของดิน
🦖✅🌏จุดเด่นของการใช้เทคโนโลยีในงานจัดตั้งฐานรากลึก
การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยช่วยทำให้การตำหนิดตั้งรากฐานลึกมีคุณภาพและไม่มีอันตรายเพิ่มมากขึ้น:
-ลดระยะเวลาสำหรับเพื่อการจัดตั้ง
-เพิ่มความแม่นยำสำหรับเพื่อการติดตั้ง
-ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-เพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยของโครงสร้าง
🎯📢📌ข้อสรุป
การต่อว่าดตั้งโครงสร้างรองรับลึก เป็นวิธีการที่จำต้องอาศัยวิชาความรู้ทางวิศวกรรมรวมทั้งเทคโนโลยีที่ล้ำยุค เพื่อให้องค์ประกอบมีความมั่นคงและไม่มีอันตราย การเลือกวิธีการติดตั้งที่สมควร ได้แก่ การตอกเสาเข็ม การเจาะเสาเข็ม หรือฐานเข็มเจาะ ขึ้นกับรูปแบบขององค์ประกอบและสภาพพื้นที่
เทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นต้นว่า เครื่องจักรไม่มีเสียงและก็การจำลองด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและลดผลพวงต่อสภาพแวดล้อม การตำหนิดตั้งโครงสร้างรองรับลึกที่ถูกต้องรวมทั้งเหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นคงของโครงสร้าง แต่ว่ายังเป็นหัวใจหลักสำหรับเพื่อการสร้างองค์ประกอบที่มีคุณภาพและยืนยงในภายภาคหน้า
Tags :
รับทดสอบดิน