วิศวกรรมฐานราก (Foundation Engineering) นับว่าเป็นหัวใจหลักของงานก่อสร้างที่ช่วยให้โครงสร้างตึกหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆมีความยั่งยืนและมั่นคง ปลอดภัย รวมทั้งสามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืน ฐานรากเปรียบได้ดั่งรากฐานของต้นไม้ที่ช่วยกระจัดกระจายน้ำหนักของโครงสร้างสู่พื้นดิน ทำให้อาคารสามารถต้านทานแรงที่เกิดขึ้นจากสาเหตุต่างๆอย่างเช่น กระแสลม แรงสะเทือน และก็น้ำหนักบรรทุกของอาคารเอง ในเนื้อหานี้ เราจะมาทำความเข้าใจถึงจุดสำคัญของวิศวกรรมรากฐานและก็การปรับใช้งานในด้านต่างๆของการก่อสร้าง
👉🥇📌จุดสำคัญของวิศวกรรมฐานรากในการก่อสร้าง
โครงสร้างรองรับเป็นส่วนแรกที่ถูกผลิตขึ้นในองค์ประกอบ เพื่อสามารถรองรับน้ำหนักทั้งปวงของตึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสำคัญของวิศวกรรมรากฐานมีดังนี้:
1.ผู้กระทำระจายน้ำหนักของโครงสร้าง
ฐานรากปฏิบัติภารกิจกระจายน้ำหนักของตึกจากโครงสร้างข้างบนสู่พื้นดิน ลดการเสี่ยงต่อการทรุดตัวหรือการเสียหายของอาคาร
2.การปกป้องการเคลื่อนขององค์ประกอบ
รากฐานที่ออกแบบอย่างเหมาะสมจะช่วยลดการเคลื่อนของตึกในสิ่งแวดล้อมที่มีแรงกระทำด้านนอก ดังเช่นว่า แรงแผ่นดินไหวหรือแรงจากอุทกภัย
3.เพิ่มความมั่นคงและยั่งยืนให้กับส่วนประกอบ
การเลือกใช้รากฐานที่เหมาะสมกับสภาพดินและก็ส่วนประกอบจะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับตึก แล้วก็ลดการเสี่ยงต่อการพังทลาย
-------------------------------------------------------------
บริการ รับเจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ เจาะสํารวจดิน วิเคราะห์และทดสอบดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook:
https://www.facebook.com/exesoiltest/👉 Youtube:
https://www.youtube.com/@%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99👉 Map:
https://maps.app.goo.gl/BmGZWQmdayF2oEgC7-------------------------------------------------------------
👉🌏👉ประเภทของโครงสร้างรองรับในงานก่อสร้าง
ในงานวิศวกรรมโครงสร้างรองรับ มีการแบ่งโครงสร้างรองรับออกเป็นสองชนิดหลัก อาทิเช่น โครงสร้างรองรับตื้น (Shallow Foundation) และก็รากฐานลึก (Deep Foundation) โดยแต่ละจำพวกมีการใช้งานที่นานับประการตามลักษณะโครงสร้างและก็ภาวะดิน
1.ฐานรากตื้น (Shallow Foundation)
โครงสร้างรองรับจำพวกนี้เหมาะกับส่วนประกอบที่มีน้ำหนักไม่มาก แล้วก็ดินที่มีความแข็งแรงพอเพียง โครงสร้างรองรับตื้นจะวางอยู่ใกล้กับผิวดิน ยกตัวอย่างเช่น โครงสร้างรองรับแผ่ (Spread Footing) แล้วก็ฐานรากแถบ (Strip Footing) การใช้ฐานรากตื้นช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายและก็เวลาในการก่อสร้างได้
2.รากฐานลึก (Deep Foundation)
สำหรับองค์ประกอบที่มีน้ำหนักมาก หรือสภาพดินที่ไม่แข็งแรง การใช้ฐานรากลึก อย่างเช่น เสาเข็ม (Pile Foundation) จะช่วยกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบไปยังชั้นดินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน ฐานรากจำพวกนี้เหมาะสำหรับการก่อสร้างที่ต้องการความมั่นคงสูง ยกตัวอย่างเช่น อาคารสูงและสะพานขนาดใหญ่
🌏🛒✅การออกแบบโครงสร้างรองรับ: แนวทางที่สำคัญ
การออกแบบฐานรากในวิศวกรรมจำเป็นต้องคำนึงถึงหลายเหตุ อย่างเช่น น้ำหนักบรรทุก ภาวะดิน แล้วก็แรงข้างนอกที่อาจกระทำต่อส่วนประกอบ หลักการสำคัญในการดีไซน์โครงสร้างรองรับ ดังเช่นว่า:
1.การสำรวจสภาพดิน
การเจาะตรวจดิน (Soil Boring Test) และก็การทดลองดิน ตัวอย่างเช่น การทดสอบความแน่นของดิน (Soil Compaction Test) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินความสามารถสำหรับเพื่อการรับน้ำหนักของดินได้
2.การคำนวณน้ำหนักบรรทุก
จะต้องคำนวณน้ำหนักของโครงสร้างรวมทั้งน้ำหนักบรรทุกอื่นๆดังเช่น รถยนต์หรือเครื่องมือหนัก เพื่อเลือกใช้รากฐานที่เหมาะสม
3.การเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง
สิ่งของที่ใช้สำหรับเพื่อการสร้างฐานราก อาทิเช่น คอนกรีตและเหล็กเสริม ต้องมีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการใช้แรงงาน
4.การออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐาน
วิศวกรจำต้องทำตามมาตรฐานที่กำหนด ดังเช่นว่า มาตรฐานการก่อสร้างแห่งชาติ เพื่อให้มีความปลอดภัยแล้วก็ความยั่งยืนขององค์ประกอบ
🌏⚡📢การประยุกต์ใช้วิศวกรรมโครงสร้างรองรับในงานก่อสร้าง
วิศวกรรมโครงสร้างรองรับมีการประยุกต์ใช้ในงานก่อสร้างหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาคารที่อยู่อาศัยจนกระทั่งองค์ประกอบที่มีความสลับซับซ้อน อย่างเช่น:
1.ตึกที่พักที่อาศัย
การเลือกใช้รากฐานแผ่สำหรับบ้านชั้นเดี่ยวหรืออาคารขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนดินที่แข็งแรง
2.อาคารสูง
การใช้เสาเข็มสำหรับการก่อสร้างอาคารสูงเพื่อเพิ่มความมั่นคงและรองรับน้ำหนักไม่น้อยเลยทีเดียว
3.สะพานรวมทั้งองค์ประกอบเบื้องต้นอื่นๆ
รากฐานลึก ดังเช่นว่า เสาเข็มตอกหรือเสาเข็มเจาะ ถูกนำมาใช้ในองค์ประกอบที่จำเป็นต้องรับแรงจากน้ำหนักแล้วก็แรงกระทำจากธรรมชาติ
4.การก่อสร้างในพื้นที่ดินอ่อน
สำหรับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรงต่ำ การใช้เทคโนโลยีเสริมความแข็งแรงของดินร่วมกับรากฐานลึกจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับน้ำหนัก
🌏🛒📢ข้อสรุป
วิศวกรรมฐานรากเป็นข้อสำคัญที่ไม่อาจมองผ่านในงานก่อสร้าง ฐานรากที่วางแบบอย่างเหมาะควรไม่เฉพาะแต่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและยั่งยืนให้กับส่วนประกอบ แต่ว่ายังช่วยลดการเสี่ยงต่อความทรุดโทรมที่บางทีอาจเกิดขึ้นในอนาคต การเลือกใช้รากฐานที่สอดคล้องกับภาวะดินแล้วก็ชนิดของส่วนประกอบ รวมถึงการปฏิบัติตามหลักทฤษฎีวิศวกรรมรวมทั้งมาตรฐานที่เกี่ยวโยง จะช่วยทำให้การก่อสร้างประสบผลสำเร็จได้อย่างยั่งยืนและก็ไม่เป็นอันตราย
วิศวกรรมโครงสร้างรองรับมิได้เป็นแค่เพียงศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับการก่อสร้างแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นพื้นฐานของความมั่นคงยั่งยืนรวมทั้งความปลอดภัยของส่วนประกอบทั้งหมดทั้งปวงในโลกของพวกเรา
Tags :
ทดสอบ compaction test